"โหดสัส รัสเซีย" คำนี้คงทำให้คิดว่าการไปเที่ยวรัสเซียสักครั้งนึงในชีวิต จะรอดหรือไม่? ประเทศที่ใหญ่ ผู้คนจำนวนมาก มีที่เที่ยวค่อนข้างเยอะ และความสวยงามของสถาปัตยกรรมสุดยิ่งใหญ่ที่ไม่แพ้ประเทศดังๆ ในยุโรป การเดินทางง่าย เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวอย่างเราไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการขอวีซ่า และค่าครองชีพก็ไม่ได้แพงเวอร์
เราจะพาไปเที่ยวรัสเซีย 3 เมือง จาก Moscow สู่ Murmansk และต่อด้วย Saint Petersburg หลายคนอาจจะรู้จักกับ Moscow และ Saint Petersburg กันเป็นอย่างดีแล้ว
ส่วน Murmansk อยู่ตรงไหน และมีอะไรน่าเที่ยวเหรอ?
Murmansk (มูร์มันสค์) เป็นเมืองท่าของประเทศรัสเซีย อยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทร Kola ติดกับมหาสมุทรแอตเเลนติกห่างจากนอร์เวย์ประมาณ 108 กม. และห่างจากฟินแลนด์ประมาณ 182 กม. จึงมีอากาศค่อนข้างหนาว เเละเป็นจุดที่สามารถชมความสวยงามของเเสงเหนือได้อีกด้วย
Moscow เมืองหลวงของรัสเซีย และเป็นหนึ่งในมหานครสำคัญของโลก ที่สามารถตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ และชอปปิ้ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการมาทำความรู้จักรัสเซีย ส่วน Saint Petersburg ก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน จนอาจจะต้องร้องว้าว..ว..ตะลึงกับความอลังการ
แล้วคนรัสเซีย โหดจริงมั้ย?
หลายๆ คนคงเคยได้ยินวีรกรรมหรือเหตุการณ์ในอดีตมาบ้าง แต่จริงๆ แล้วคนที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น แค่หน้าตาจริงจังก็เท่านั้นเอง แต่น่ากลัวคือเรื่องภาษา เพราะบางที่ของรัสเซียไม่มีภาษาอังกฤษเลยก็จะลำบากหน่อย ส่วนเรื่องมิจฉาชีพ ก็ควรระมัดระวังตัวหน่อยก็จะดี เพราะไม่ว่าจะเที่ยวที่ไหน ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ พยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด กล้องควรมีสายคล้องให้แน่น เก็บเอกสารสำคัญ และเงินแบ่งไว้หลายๆ กระเป๋า เลี่ยงที่คนเดินเบียดๆ อย่ามัวถ่ายรูปจนเพลิน หรือมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำให้เสียเงินแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะนี่โดนไปแล้วจ้า...ตั้งแต่มาวันแรก
ทริปนี้ได้แพลนการเดินทางไว้ทั้งหมด 11 วัน (ช่วงวันที่ 6-17 เมษายน 2017) อากาศก็จะหนาวๆ เย็นๆ มีทั้งฝนทั้งหิมะโปรยปราย
วันที่ 1-3 > เที่ยวใน Moscow เป็นหลักตามเส้นทางที่มีรถไฟผ่าน
วันที่ 4 > บินภายในไป Murmansk
วันที่ 5-6 > Murmansk ออกล่าแสงเหนือ กวางเรนเดียร์ สุนัขลากเลื่อน (ซื้อ Local Tour)
วันที่ 7 > บินภายในไป Saint Petersburg
วันที่ 8-10 > เที่ยวใน Saint Petersburg
วันที่ 11 > กลับเข้าเมือง Moscow ด้วยรถไฟ
การเดินทางด้วยสายการบิน Aeroflot ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ไม่เลวสำหรับการไปรัสเซีย เพราะเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศรัสเซียแบบ Full Service ราคาไม่แพง และบินตรง จากกรุงเทพฯ ไปมอสโก (สนามบิน Sheremetyevo) ใช้เวลาประมาณ 10 ชม. ซึ่งวันแรกที่เดินทางมาถึงก็เกือบจะค่ำแล้ว (ตามเวลาท้องถิ่นที่ช้ากว่าไทย 4 ชม.) เมื่อผ่านตม.ไม่ต้องตกใจถ้าเค้าถามหาวีซ่า เราก็แค่ตอบไปว่า "Visa exemption" จนท.ตม.จะเปิดดู Passport ของเราทุกหน้าอย่างละเอียด ส่องแล้วส่องอีก (ยังกะส่องพระ!!) จนประทับตราให้ผ่านเข้าไปได้
มีรถไฟ Aeroexpress จากสนามบิน เข้าสู่ตัวเมืองมอสโก ออกทุก 30 นาที (500 RUB) ถึงที่สถานีปลายทาง Moskva Belorusskaya แล้วต่อ Metro สายสีน้ำเงินไปลงสถานี Arbatskaya จะอยู่ใกล้กับย่าน Arbat Street ซึ่งเป็นที่พักของเราในมอสโก
การมาเที่ยวในรัสเซีย ก่อนเข้าพักทางโรงแรมจะออกเอกสาร “Visa Registration” ให้เราพกติดตัวไว้ หากที่มีการเปลี่ยนโรงแรมหรือที่พัก ก็จะต้องทำการ Visa Registration ทุกครั้ง (บางที่พักอาจมีค่าธรรมเนียมค่าเอกสารเพิ่มเติม)
เช้าวันใหม่ สายฝนโปรยลงมาต้อนรับอย่างเย็นฉ่ำ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการเที่ยว จุดหลักของเราวันนี้อยู่ที่ พระราชวัง KREMLIN และจัตุรัสแดง RED SQUARE ซึ่งสามารถเปิด Google Map แล้วเดินเที่ยวได้ไม่ยาก หรือถ้านั่งรถไฟใต้ดิน แนะนำให้โหลด App Moscow Metro ไว้ เพราะภายในสถานีมีแต่ภาษารัสเซียล้วนๆ
พระราชวัง KREMLIN อยู่ใกล้กับ Metro สายสีฟ้า สถานี Alexandrovsky Sad นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อบัตรเข้าชมภายในบริเวณพระราชวัง รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศาสตราวุธ State Armoury Chamber (700 RUB) ก่อนเข้าจะมีด่านตรวจสัมภาระ X-ray ร่างกาย ต้องบอกก่อนว่าจุดท่องเที่ยว หรือสถานที่สำคัญของรัสเซีย จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวด แม้แต่เข้าภายในสถานีรถไฟใต้ดินหรือห้างก็ตาม
พระราชวัง KREMLIN เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศรัสเซียเลยก็ว่าได้ ด้วยความยิ่งใหญ่ และสถาปัตกรรมที่งดงามและเก่าแก่ จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายในมีการเก็บรักษาสมบัติของชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ จึงต้องมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
ตัวพิพิธภัณฑ์ State Armoury Chamber จะอยู่ภายในพระราชวัง KREMLIN ดังนั้นเมื่อซื้อบัตรเข้ามาแล้ว ลองดูเวลาดีๆ เพราะเค้าเปิดให้เข้าชมเป็นรอบเวลา 10.00,12.00,14.30, 16.30 แล้วค่อยออกมาเดินชมบริเวณอื่นๆ ของพระราชวัง
พิพิธภัณฑ์คลังอาวุธเครมลิน หรือ Armoury Chamber ที่เก่าแก่ที่สุดในมอสโก สถานที่จัดแสดงวัตถุอันล้ำค่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้กว่าศตวรรษในห้องเก็บสมบัติของซาร์ จำนวนนับหลายพันรายการที่เป็นงานศิลปะขั้นสูงของรัสเซียและในยุโรป (ภายในไม่สามารถถ่ายภาพได้)
ออกมาจากพระราชวังเครมลิน ก็จะเจอกับจัตุรัสแดง RED SQUARE อีกแลนด์มาร์คที่ใครมามอสโก ต้องมาเช็คอินที่นี่ จุดศูนย์กลางที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นอย่างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มอสโก (State Historical Museum) มหาวิหารเซนต์เบซิล (St. Basil's Cathedral) และ ห้างสรรพสินค้า GUM รายล้อมอยู่
จัตุรัสแดง RED SQUARE ใจกลางเมืองมอสโก ด้วยพื้นที่กว้าง 695 เมตร และยาว 130 เมตร สถานที่สวนสนามของกองทัพเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหารในยุคที่สหภาพโซเวียตรุ่งเรือง จนกลายมาเป็นจุดนัดพบ เดินเล่น ถ่ายรูป ไม่ว่าจะหันไปทิศไหนก็จะได้ภาพที่สวยงาม ทั้งยอดโดมทรงหัวหอมสีสดของมหาวิหารเซนต์เบซิล อาคารพิพิธภัณฑ์สีแดงเข้มที่อยู่ตรงข้าม
และถ้าอยากช้อปปิ้ง ก็มีห้างสรรพสินค้า GUM (ห้างกุม) ที่อยู่ข้างๆ เป็นห้างที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก สวยงามโดดเด่น ดูหรูหรา มีร้านค้าให้บริการมากมายกว่า 200 ร้านค้า และต้องมาลองชิมไอศครีม Mopomehoe ที่มีสูตรมาร้อยกว่าปี
ออกจากจุตุรัสแดงเดินไปตามเส้นทางเรียบแม่น้ำ Moskva ก็จะเจอกับมหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ หรือมหาวิหารโดมทอง (St. Saviour Cathedral) ที่ยิ่งใหญ่ ใช้ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญระดับชาติทางคริสตศาสนาของประเทศรัสเซีย หรือถ้านั่ง Metro สายสีแดงมาลงที่สถานี Kropotkinskaya
สามารถถ่ายรูปได้บริเวณรอบๆ ภายนอกของมหาวิหาร แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในได้
ใกล้กับวิหารจะมีสะพานข้ามแม่น้ำ Moskva เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลทางตะวันตกผ่านใจกลางของกรุงมอสโก สามารถมองไปเห็นวิวของพระราชวังเครมลินได้ด้วย
อย่างที่เกริ่นไปตอนแรก ว่าโดนเลยจ้า...อยู่ๆ ก็หาเรื่องเสียเงินแบบไม่ทันตั้งตัว ช่วงระหว่างเดินเที่ยวแถวๆ พระราชวังเครมลิน กับจัตุรัสแดง ก็จะมีพวกคนแต่งชุดรัสเซีย มาคอยทักทายและชวนถ่ายรูป แต่ก็คิดว่าไม่ได้แอ้มหรอก แต่ไอ้นกบ้า...มาจากไหนก็ไม่รู้ พร้อมกับผู้ชาย 2 คนมาเกาะหัว เกาะแขน ก็นึกว่าไม่มีไรเลยขอถ่ายรูปไว้หน่อย เท่านั้นแหล่ะ...ทำท่า Money Money เลยจ้าา โดนไป 10,000 RUB (ประมาณ 5,000 บาท) พยายามต่อรองแล้วแต่ไม่สำเร็จ และตอนนั้นก็ไม่รู้จะไปเรียกใครมาช่วย ด้วยความกลัวสถานการณ์จะแย่ไปกว่านี้ เลยต้องยอมไปก่อน หลังจากนั้นหมดอารมณ์เที่ยวแล้ว กลับเข้าโรงแรมไปนอนทำใจก่อนละกัน
ไอ้นกบ้า...ห้าพัน ยิ่งกว่าโจรห้าร้อย!!
วันที่สองของการอยู่มอสโก นั่งรถไฟ Metro เล่นซะหน่อย เพราะสถานีรถไฟในมอสโก เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะแต่ละสถานีมีการออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งที่สวยงามแตกต่างกันออกไป แต่เนื่องจากก่อนหน้าที่เดินทางมาไม่กี่วัน ได้เกิดเหตุการณ์ไม่ค่อยดีที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่มีการตรวจและดูแลความปลอดภัยกันอย่างเข้มงวด เลยทำให้ไม่สะดวกในการถ่ายรูป
สถานี Mayakovskaya สายสีเขียว หนึ่งในสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับรางวัล The Grand prize winner at the 1938 world’s Fair
สถานี Komsomolskaya สายสีแดงและสีน้ำตาล รูปแบบสไตล์ baroque ด้วยลวดลายวิจิตร ตระการตา อลังการสุดๆ จนได้รับการโหวตจากผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ว่าเป็นสถานนีที่สวยที่สุดของมอสโก
และมีอีกหลายสถานีที่สวยไม่แพ้กันเช่น สถานี Novoslobodskaya สายสีน้ำตาล ที่มีการประดับด้วยกระจกสี หรือ Stained gless สถานี Arbatskaya สายสีน้ำเงิน ที่มีความลึก 41 เมตร และสถาปัตยกรรม Stalinist Baroque สถานี Ploshchad Revolyutsii สายสีน้ำเงิน ที่มีรูปปั้นทหารพร้อมสุนัขคู่ใจ ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาส่วนใหญ่จะมาลูบจมูก ลูบขา เพื่อความโชคดี นั่งต่อไปสายสีน้ำเงิน ที่สถานี Partizanskaya ก็จะถึงตลาด IZMAILOVO MARKET
ที่นี่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของมอสโกเลยก็ว่าได้ มีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด ออกแนวๆ ตลาดนัดจตุจักรบ้านเรา มีนักท่องเที่ยว และบรรดาคนท้องถิ่นออกมาเดินซื้อของ ไม่ต้องแปลกถ้ามีพ่อค้าแม่ค้าทักทายเราเป็นภาษาไทย คาดว่าคนไทยคงมาที่นี่เยอะ เรื่องภาษาไม่ต้องห่วง ทำให้ต่อรองราคาง่ายขึ้นแน่ๆ
ใครจะหาซื้อตุ๊กตาแม่ลูกดก แนะนำให้มาหาซื้อที่ตลาด IZMAILOVO เพราะมีหลายร้านค้า หลากหลายแบบให้เลือก ต่อราคาได้ถูกกว่าตามร้านข้างนอกหรือในเมืองเยอะเลย
ถ้ามีเวลาก็เดินเล่นได้เรื่อยจนถึง 6 โมงเย็น แต่วันนี้ เราต้องไปต่ออีก 2 ที่ เวลาคงไม่พอ ไว้มาเก็บตกวันสุดท้ายก่อนบินกลับก็แล้วกัน จุดหมายต่อไป เราจะออกไปไกลอีกนิดหน่อย คือที่ Museum Of Cosmonautics เปลี่ยนเส้นทางไป Metro สายสีส้มลงที่สถานี VDNKh ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์อวกาศ (Space museum) แห่งมอสโก ค่าเข้าชม 200 RUB ถ้าจะเอากล้องเข้าไปด้วยก็ต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย
มาถึงก็จะเห็น Monument to the Conquerors of Space โดดเด่นมาแต่ไกล ด้วยความสุงกว่า 100 เมตร เหมือนจรวดที่กำลังทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ภายในเราจะได้เห็นเทคโนโลยีอวกาศรัสเซีย และประวัติความเป็นมาของยูริ กาการิน นักวิทยาศาสตร์ นักบินอวกาศโซเวียต และสุนัขตัวเเรกของโลกที่ไปอยู่บนอวกาศอย่าง "ไรก้า"
ออกจากพิพิธภัณฑ์ ก็เตรียมตัวไปดูโชว์ The magic of the circus show ที่มีชื่อเสียงของรัสเซีย เดี๋ยวกลัวว่าจะมาไม่ถึง เพราะเคยเห็นแต่ในหนัง จะได้ดูของจริงก็โอกาสนี้แหล่ะ ซึ่งสถานที่แสดงจะอยู่ที่ Circus Nikulin on Tsvetnoy Boulevard (Main Stage) ใกล้กลับสถานี Tsvetnoy Bulvar สายสีเทา
โชว์จะเริ่มตั้งแต่เวลา 18:00 น. เป็นเวลา 2 ชม.ครึ่ง ค่าบัตรเข้าชม 1650 RUB โดยสามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ล่วงหน้าก่อนไปได้ https://www.ticketland.ru
ก็ปิดท้ายทริปที่มอสโกไปแบบประทับใจ (ถ้าไม่นับเรื่องเสียเงินไปวันแรก) สำหรับวันรุ่งขึ้น เตรียมตัวเดินทางต่อ เพื่อมุ่งขึ้นเหนือจะหนาวขนาดไหน แล้วเจอกันที่ Murmansk...(ติดตาม Part 2)
Winter moments in Russia
โหดแค่ไหน...ก็ยังติดใจ รัสเซีย (Part 2 - Murmansk)
Comments